Wednesday, July 31, 2013

TOEIC :: กับการเตรียมตัวเบาๆ

ว่าด้วยเรื่องของคะแนนสอบ TOEIC และการเตรียมตัว ก่อนอื่นจะสอบได้เนี้ยอุ๋มเชื่อว่าสาระสำคัญเลย คือ การเตรียมสอบ รู้วันนี้สอบพรุ่งนี้ มันเวิร์คนะสำหรับบางคน แต่ว่าถ้าจะเสียตังค์สอบ แล้วเสียตังค์อีกหน่อยซื้อหนังสือมาอ่าน เพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆ น่าจะดีกว่า วันนี้อุ๋มจึงมาแชร์วิธีการทำข้อสอบบาง Part ที่อุ๋มถนัดค่ะ :)

ก่อนอื่นมารู้จัก TOEIC กันก่อนเลยดีกว่า

TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication เป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถ ตั้งแต่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในระดับเริ่มต้น จนถึงผู้ที่ใช้ ภาษาอังกฤษได้ในระดับใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา TOEIC เป็นแบบทดสอบภาษาอังกฤษที่ถือเป็นมาตรฐานสากล ที่นำมาใช้วัดระดับความสามารถในการฟังและการอ่าน และทักษะความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ (English Proficiency) หน่วยงานต่าง จึงได้นำ TOEIC ไปใช้ในลักษณะต่างๆ กัน บางแห่งเพื่อคัดเลือกเข้าทำงาน บางแห่งใช้เพื่อวัดระดับความสามารถ ทางการใช้ภาษาของ พนักงาน

** โดยปรกติแล้วผลสอบมีอายุ 2 ปี ค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าสายการบินนั้นๆ จำกัดระยะเวลาไว้เท่าไหร่นับจากวันสอบด้วยนะคะ **

            มาพูดถึงข้อสอบ TOEIC บ้าง ข้อสอบ TOEIC ในปัจจุบันที่เราจะได้สอบกัน คือ Redesigned TOEIC หรือ ข้อสอบ TOEIC ที่ปรับปรุงใหม่แล้ว เวลาซื้อหนังสือประกอบการเตรียมตัวต้องดูดีๆ นะคะ อุ๋มคิดว่าอาจจะยังมีหนังสือเตรียมตัวสอบของ TOEIC แบบเก่าหลงเหลืออยู่ ข้อสอบ TOEIC แบบใหม่ ประกอบด้วยอะไรบ้าง

แบบทดสอบ TOEIC เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple choice) มีทั้งหมด 200 ข้อ โดยใช้ เวลาสอบ 2 ชั่วโมงเต็ม (บอกเลยว่าต้องบริหารเวลาดีมากๆๆๆ) โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆด้วยกัน ได้แก่

Section 1: Listening Comprehension (ส่วนของการฟัง)

** Part นี้ จะเป็น Part เดียวที่พวกเรามีโอกาส ทำได้ ครบ 100 ข้อ โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า Reading Part ค่ะ หลักๆ ที่ต้องใช้ในการทำข้อสอบส่วนนี้ คือ สมาธิ ค่ะ อย่าพะวงหน้าพะวงหลัง หลุดปุ๊บ จบ! **

Part I:   Photographs 10 Questions (รูปภาพ 10 ข้อ)
วิธีการทำ Part นี้ของอุ๋มหลักๆ เลย คือมองภาพนั้นดีๆ ก่อนที่เทปจะเล่นคำพูดออกมา โดยพยายามดูว่า ใคร กำลังทำอะไร ที่ไหน มีกี่คน ดูลักษณะหลักๆ เพราะเสียงที่เล่นออกมานั้นจะพูดสิ่งที่เราเห็นนั่นแหละ ถ้ากลัวฟังไม่ทัน *แนะนำ* หาหนังสือที่มี CD ประกอบ จะได้ลองฟังดูให้ชิน ลองทำข้อสอบดูว่าตอนลองทำ ทำได้มากน้อยแค่ไหน ฟังออกมากน้อยแค่ไหน ต้องฝึกเยอะๆ

Part II:  Question – Response 30 Questions (ถาม-ตอบ 30 ข้อ)
            ทุก Part ของ Listening เน้นสมาธิล้วนๆ ตรงนี้อุ๋มจะตั้งใจฟัง คำแรกของประโยค หรือ Question-word ของโจทย์แต่ละข้อให้ได้ จริงๆแล้วเขียน Question-word ของแต่ละ ข้อลงในกระดาษคำถามเลยกันลืมไปเลย เช่น What, Where, When, Why, How …, etc. เพราะว่า มันเจาะจงได้เลยว่าคำตอบของเราต้องตอบแบบไหน ไม่ใช่ ถามว่านี่คืออะไร จะไปตอบว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่ แค่ได้ คำแรกมา คำตอบมันเดาได้ค่อนข้างง่ายแล้ว พยายามอย่ารวน สติอย่าหลุด ตรงนี้ทำได้แน่นอน :D

Part III: Conversations 30 Questions (10 Conversations; 3 Questions each) (บทสนทนา 30 ข้อ)
Part IV: Short Talks 30 Questions (10 Talks; 3 Questions each) (บทพูดคุยสั้น 30 ข้อ)
            ส่วน Part 3 และ 4 นี้ ถ้าทำได้ อ่านคำถามทั้ง 3 ข้อ ก่อนที่ ก่อนที่จะเปิดเสียงข้อความให้ได้ทุกครั้ง ซึ่งค่อนข้างยาก อันนี้ยิ่งฝึกเยอะยิ่งดี คือถ้าโจทย์อ่าน ถ้าเรื่องไหนฟังออก ก็น่าจะตอบได้ ทั้ง 3 ข้อ แต่ถ้าฟังไม่ออก ให้มั่วให้ใกล้เคียง เอาส่วนที่ได้ยินมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ยิ่งพวกที่ชี้เฉพาะ  วัน เวลา สถานที่ แทน แบบถ้าได้ยินคำนั้น ก็เลือกไปเลย อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสถูกบ้างค่ะ

Section 2: Reading Comprehension (ส่วนของการอ่าน)
              Part V:   Incomplete Sentences 40 Questions (เติมประโยคให้สมบูรณ์ 40 ข้อ)
              Part VI:  Text Completion 12 Questions (4 Reading Sets; 3 Questions each) (เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ 20 ข้อ)
              Part VII: Reading Comprehensive 48 Questions (Single Passages: 28 Questions, Double Passages 20 Questions) (การอ่านเพื่อจับใจความ 40 ข้อ)

              บอกตามตรงเลย Part นี้ไม่กล้าแนะนำค่ะ ในส่วนของ Listening อุ๋มจัดเต็มได้ เพราะ ส่วนนั้นได้เต็ม แต่ Grammar ห่วยมากบอกเลย เลยอยากให้อ่านและเตรียมตัวกันเยอะๆ สำคัญที่สุดในเรื่องของเวลาค่ะ บริหารเวลาดีๆ ไม่ได้ ข้ามไปก่อน อย่ารน อย่าวน อย่าคิดอะไรเลย คิดแค่ข้อสอบตรงหน้า ส่วนของ Context ยาวๆ พยายามแสกนหาจุดสำคัญ อ่านคำถามก่อนว่าเขาต้องการอะไร ต้องการให้เราหาอะไร เพื่อไปหาจุดที่สามารถนำมาตอบได้ ที่อยากให้ทุกคนลองทำข้อสอบก่อน เพราะว่าตอนอุ๋มเตรียมตัวอุ๋มได้ 900+ คะแนน แต่ตอนไม่เตรียมตัวได้น้อยกว่าค่ะ ยังไง ก็พยายามกันเยอะๆๆ นะคะ ข้อมูลดีๆ เดี๋ยวนี้หาได้ไม่ยาก ใน Internet มีเยอะมาก ลองดูนะคะ

มีเว็บไซต์มาให้ลองทำข้อสอบด้วยค่ะ http://www.english-test.net/toeic/ ลองดูนะคะ ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวมากเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ

ส่วนหนังสือที่อุ๋มใช้ในการเตรียมตัวสอบ คือ Redesigned TOEIC Grammar & Reading Tests ของ ดร.ภาณุ ปรัชญะวิสาล ค่ะ เพราะมีครบทุก Part และมี CD ประกอบสำหรับฝึก Listening ด้วยค่ะ



แล้วก็เวลาจะไปสอบ TOEIC ต้องจองสอบล่วงหน้าก่อนกับทางศูนย์สอบ TOEIC นะคะ ตามข้อมูลด้านล่างนี่เลยค่ะ

เกี่ยวกับศูนย์สอบ TOEIC
เวลาทำการ (Office Hours) วันจันทร์ เสาร์ เวลา 8:00 - 16:30
เวลาในการรับผลสอบ (Score Pickup) วันจันทร์ เสาร์ เวลา 10.00 - 16.30
เวลาหยุดทำการ ทุกวันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์
** เพราะฉะนั้นดูตารางดีๆ นะคะ ถ้าจะใช้คะแนนกระชั้นชิด เดี๋ยวพอจะไปสอบศูนย์ปิดจะอดสอบน๊า **

ที่ตั้งศูนย์สอบ TOEIC (สาขา กรุงเทพ)
Center of Professional Assessment Thailand อาคาร BB Tower (Bangkok Business Building) ชั้น 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี (ซอยสุขุมวิท 21) กรุงเทพ 10110
โทรศัพท์ (02) 260 7061, (02) 259-3990
โทรสาร (02) 664-3122

แผนที่ศูนย์สอบ TOEIC (สาขา กรุงเทพ)



ขอเล่าเรื่องการไปสอบ TOEIC ของอุ๋มเอง :D อันนี้ข้ามได้นะคะ ฮ่าๆ

ก่อนสอบ โทรจองล่วงหน้ากับศูนย์สอบ 2 วัน จำได้ว่าจะสอบวันพุธ โทรไปจองวันจันทร์อะไรแบบนี้ ในช่วงที่คนไม่ชุม ทำแบบนี้ได้ค่ะ

ถึงวันสอบ เดินทางไปตึก BB Tower เอาง่ายๆ อยู่ข้างแกรมมี่เลยนั่งรถไฟฟ้าไปลงอโศก ต่อวินมอเตอร์ไซต์ค่ะ ง่ายดี หรือถ้าขับรถไปก็มีที่จอดนะคะ แต่รถติดมาก เไปก่อนเวลาดีที่สุด อย่าเอาสัมภาระไปเยอะ เพราะเขาไม่ให้เอาอะไรเข้าไปในห้องเลยต้องฝากไปด้านนอกเท่านั้นนะคะ เดี๋ยวมีอะไรหายจะยุ่ง ไปถึงก็มีถ่ายรูปก่อนเข้าห้องสอบ แล้วก็เตรียมตัวเข้าห้องสอบได้ ไม่ต้องเตรียมปากกา ดินสอไปนะคะ ทางศูนย์มีไว้ให้หมดค่ะ และน่าจะเป็นที่รู้กันว่าในห้องสอบหนาวมากค่ะ ฮ่าๆ แต่งตัวรัดกุม และเตรียมเสื้อคุมไปซักตัวจะดี เพราะ ความหนาวสามารถทำลายสมาธิที่มีได้

ข่าวลืออที่ว่า ในช่วงที่ .การบินไทย รับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นข้อสอบ TOEIC จะยากขึ้น นั้น ไม่น่าเป็นความจริงนะคะ เพราะเท่าที่ทราบมาข้อสอบมีมีน หรือมาตรฐานในการออก ไม่น่าจะยากง่ายต่างกันมากนักค่ะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงแน่ๆ คือ ช่วงที่สายการบินไทยเปิดรับสมัคร จะต้องต่อแถวนานมากเนื่องจากคนสอบเยอะขึ้นเว่อร์ เพราะฉะนั้นไปสอบแต่เนิ่นๆ ดีกว่าค่ะ

การสอบ TOEIC ความจริงไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องทำข้อสอบจำนวนมากในเวลาที่จำกัด ข้อไหนทำไม่ได้อย่าลังเล ทำไปเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาและพาลทำให้ข้ออื่นเจ๊งไปด้วย พังแล้ว พังเป็นโดมิโนเลยนะคะ อีกส่วนที่น่าเป็นส่วนที่ทำคะแนนคือ Reading แต่เนื้อหาเยอะมาก ทางที่ดีควรดูคำถามและตัวเลือกก่อนไปหาคำตอบค่ะ นอกนั้นเป็นส่วนของ Grammar และคำศัพท์ อันนี้ต้องพึ่งความรู้เดิมและการเตรียมตัวค่ะ เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะเจออะไรในห้องสอบ ที่สำคัญที่สุด คือ เวลาที่จำกัดมากๆเมื่อเทียบกับจำนวนข้อสอบที่เราต้องทำ ฉะนั้น อย่าลืมเรื่องเวลาตอนทำข้อสอบด้วยนะคะ

           สอบเสร็จปุ๊บ วันรุ่งขึ้นก็ไปรับผลสอบได้ค่ะ ตื่นเต้นมากทุกครั้งที่ไปรับคะแนนสอบ แต่ก็ผ่านมาด้วยดีทุกครั้ง .. ที่เตรียมตัว ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดี และสนุกกับการเตรียมตัวนะคะ J

           วันนี้ไปละค่ะ มาซะยาวววเลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

คลิกมาที่เพจอุ๋มได้เลยนะคะ :D อัพเดทเมื่อไหร่รู้ทันที

แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ

2 comments:

  1. ขอบคุนนะคะที่เขียนบลอคดีดีมาให้อ่าน กำลังอยากเตรียมตัว สมัครลูกเรืออยุ แต่ภาษาอังกิดไม่ค่อยดี สอบได้แค่600เอง กำลังเรียนเพิ่มแล้วพยายามต่อไป^^ พี่อุ๋มเก่งและสวยมากเลยค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. งั้นต้องเตรียมตัวเยอะๆ นะคะ :) ลองหาหนังสือมาอ่านดู เตรียมตัวเนิ่นๆ เลย ลองสอบใหม่ดูได้นะ พี่อุ๋มก็สอบ 2 รอบค่ะ เอารอบที่คะแนนดีกว่ายื่นเลย

      และขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาติดตาม ตอนต่อไปจะออกเร็วๆ นี้ค่ะ

      Delete