Wednesday, July 31, 2013

TOEIC :: กับการเตรียมตัวเบาๆ

ว่าด้วยเรื่องของคะแนนสอบ TOEIC และการเตรียมตัว ก่อนอื่นจะสอบได้เนี้ยอุ๋มเชื่อว่าสาระสำคัญเลย คือ การเตรียมสอบ รู้วันนี้สอบพรุ่งนี้ มันเวิร์คนะสำหรับบางคน แต่ว่าถ้าจะเสียตังค์สอบ แล้วเสียตังค์อีกหน่อยซื้อหนังสือมาอ่าน เพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆ น่าจะดีกว่า วันนี้อุ๋มจึงมาแชร์วิธีการทำข้อสอบบาง Part ที่อุ๋มถนัดค่ะ :)

ก่อนอื่นมารู้จัก TOEIC กันก่อนเลยดีกว่า

TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication เป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถ ตั้งแต่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในระดับเริ่มต้น จนถึงผู้ที่ใช้ ภาษาอังกฤษได้ในระดับใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา TOEIC เป็นแบบทดสอบภาษาอังกฤษที่ถือเป็นมาตรฐานสากล ที่นำมาใช้วัดระดับความสามารถในการฟังและการอ่าน และทักษะความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ (English Proficiency) หน่วยงานต่าง จึงได้นำ TOEIC ไปใช้ในลักษณะต่างๆ กัน บางแห่งเพื่อคัดเลือกเข้าทำงาน บางแห่งใช้เพื่อวัดระดับความสามารถ ทางการใช้ภาษาของ พนักงาน

** โดยปรกติแล้วผลสอบมีอายุ 2 ปี ค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าสายการบินนั้นๆ จำกัดระยะเวลาไว้เท่าไหร่นับจากวันสอบด้วยนะคะ **

            มาพูดถึงข้อสอบ TOEIC บ้าง ข้อสอบ TOEIC ในปัจจุบันที่เราจะได้สอบกัน คือ Redesigned TOEIC หรือ ข้อสอบ TOEIC ที่ปรับปรุงใหม่แล้ว เวลาซื้อหนังสือประกอบการเตรียมตัวต้องดูดีๆ นะคะ อุ๋มคิดว่าอาจจะยังมีหนังสือเตรียมตัวสอบของ TOEIC แบบเก่าหลงเหลืออยู่ ข้อสอบ TOEIC แบบใหม่ ประกอบด้วยอะไรบ้าง

แบบทดสอบ TOEIC เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple choice) มีทั้งหมด 200 ข้อ โดยใช้ เวลาสอบ 2 ชั่วโมงเต็ม (บอกเลยว่าต้องบริหารเวลาดีมากๆๆๆ) โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆด้วยกัน ได้แก่

Section 1: Listening Comprehension (ส่วนของการฟัง)

** Part นี้ จะเป็น Part เดียวที่พวกเรามีโอกาส ทำได้ ครบ 100 ข้อ โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า Reading Part ค่ะ หลักๆ ที่ต้องใช้ในการทำข้อสอบส่วนนี้ คือ สมาธิ ค่ะ อย่าพะวงหน้าพะวงหลัง หลุดปุ๊บ จบ! **

Part I:   Photographs 10 Questions (รูปภาพ 10 ข้อ)
วิธีการทำ Part นี้ของอุ๋มหลักๆ เลย คือมองภาพนั้นดีๆ ก่อนที่เทปจะเล่นคำพูดออกมา โดยพยายามดูว่า ใคร กำลังทำอะไร ที่ไหน มีกี่คน ดูลักษณะหลักๆ เพราะเสียงที่เล่นออกมานั้นจะพูดสิ่งที่เราเห็นนั่นแหละ ถ้ากลัวฟังไม่ทัน *แนะนำ* หาหนังสือที่มี CD ประกอบ จะได้ลองฟังดูให้ชิน ลองทำข้อสอบดูว่าตอนลองทำ ทำได้มากน้อยแค่ไหน ฟังออกมากน้อยแค่ไหน ต้องฝึกเยอะๆ

Part II:  Question – Response 30 Questions (ถาม-ตอบ 30 ข้อ)
            ทุก Part ของ Listening เน้นสมาธิล้วนๆ ตรงนี้อุ๋มจะตั้งใจฟัง คำแรกของประโยค หรือ Question-word ของโจทย์แต่ละข้อให้ได้ จริงๆแล้วเขียน Question-word ของแต่ละ ข้อลงในกระดาษคำถามเลยกันลืมไปเลย เช่น What, Where, When, Why, How …, etc. เพราะว่า มันเจาะจงได้เลยว่าคำตอบของเราต้องตอบแบบไหน ไม่ใช่ ถามว่านี่คืออะไร จะไปตอบว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่ แค่ได้ คำแรกมา คำตอบมันเดาได้ค่อนข้างง่ายแล้ว พยายามอย่ารวน สติอย่าหลุด ตรงนี้ทำได้แน่นอน :D

Part III: Conversations 30 Questions (10 Conversations; 3 Questions each) (บทสนทนา 30 ข้อ)
Part IV: Short Talks 30 Questions (10 Talks; 3 Questions each) (บทพูดคุยสั้น 30 ข้อ)
            ส่วน Part 3 และ 4 นี้ ถ้าทำได้ อ่านคำถามทั้ง 3 ข้อ ก่อนที่ ก่อนที่จะเปิดเสียงข้อความให้ได้ทุกครั้ง ซึ่งค่อนข้างยาก อันนี้ยิ่งฝึกเยอะยิ่งดี คือถ้าโจทย์อ่าน ถ้าเรื่องไหนฟังออก ก็น่าจะตอบได้ ทั้ง 3 ข้อ แต่ถ้าฟังไม่ออก ให้มั่วให้ใกล้เคียง เอาส่วนที่ได้ยินมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ยิ่งพวกที่ชี้เฉพาะ  วัน เวลา สถานที่ แทน แบบถ้าได้ยินคำนั้น ก็เลือกไปเลย อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสถูกบ้างค่ะ

Section 2: Reading Comprehension (ส่วนของการอ่าน)
              Part V:   Incomplete Sentences 40 Questions (เติมประโยคให้สมบูรณ์ 40 ข้อ)
              Part VI:  Text Completion 12 Questions (4 Reading Sets; 3 Questions each) (เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ 20 ข้อ)
              Part VII: Reading Comprehensive 48 Questions (Single Passages: 28 Questions, Double Passages 20 Questions) (การอ่านเพื่อจับใจความ 40 ข้อ)

              บอกตามตรงเลย Part นี้ไม่กล้าแนะนำค่ะ ในส่วนของ Listening อุ๋มจัดเต็มได้ เพราะ ส่วนนั้นได้เต็ม แต่ Grammar ห่วยมากบอกเลย เลยอยากให้อ่านและเตรียมตัวกันเยอะๆ สำคัญที่สุดในเรื่องของเวลาค่ะ บริหารเวลาดีๆ ไม่ได้ ข้ามไปก่อน อย่ารน อย่าวน อย่าคิดอะไรเลย คิดแค่ข้อสอบตรงหน้า ส่วนของ Context ยาวๆ พยายามแสกนหาจุดสำคัญ อ่านคำถามก่อนว่าเขาต้องการอะไร ต้องการให้เราหาอะไร เพื่อไปหาจุดที่สามารถนำมาตอบได้ ที่อยากให้ทุกคนลองทำข้อสอบก่อน เพราะว่าตอนอุ๋มเตรียมตัวอุ๋มได้ 900+ คะแนน แต่ตอนไม่เตรียมตัวได้น้อยกว่าค่ะ ยังไง ก็พยายามกันเยอะๆๆ นะคะ ข้อมูลดีๆ เดี๋ยวนี้หาได้ไม่ยาก ใน Internet มีเยอะมาก ลองดูนะคะ

มีเว็บไซต์มาให้ลองทำข้อสอบด้วยค่ะ http://www.english-test.net/toeic/ ลองดูนะคะ ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวมากเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ

ส่วนหนังสือที่อุ๋มใช้ในการเตรียมตัวสอบ คือ Redesigned TOEIC Grammar & Reading Tests ของ ดร.ภาณุ ปรัชญะวิสาล ค่ะ เพราะมีครบทุก Part และมี CD ประกอบสำหรับฝึก Listening ด้วยค่ะ



แล้วก็เวลาจะไปสอบ TOEIC ต้องจองสอบล่วงหน้าก่อนกับทางศูนย์สอบ TOEIC นะคะ ตามข้อมูลด้านล่างนี่เลยค่ะ

เกี่ยวกับศูนย์สอบ TOEIC
เวลาทำการ (Office Hours) วันจันทร์ เสาร์ เวลา 8:00 - 16:30
เวลาในการรับผลสอบ (Score Pickup) วันจันทร์ เสาร์ เวลา 10.00 - 16.30
เวลาหยุดทำการ ทุกวันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์
** เพราะฉะนั้นดูตารางดีๆ นะคะ ถ้าจะใช้คะแนนกระชั้นชิด เดี๋ยวพอจะไปสอบศูนย์ปิดจะอดสอบน๊า **

ที่ตั้งศูนย์สอบ TOEIC (สาขา กรุงเทพ)
Center of Professional Assessment Thailand อาคาร BB Tower (Bangkok Business Building) ชั้น 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี (ซอยสุขุมวิท 21) กรุงเทพ 10110
โทรศัพท์ (02) 260 7061, (02) 259-3990
โทรสาร (02) 664-3122

แผนที่ศูนย์สอบ TOEIC (สาขา กรุงเทพ)



ขอเล่าเรื่องการไปสอบ TOEIC ของอุ๋มเอง :D อันนี้ข้ามได้นะคะ ฮ่าๆ

ก่อนสอบ โทรจองล่วงหน้ากับศูนย์สอบ 2 วัน จำได้ว่าจะสอบวันพุธ โทรไปจองวันจันทร์อะไรแบบนี้ ในช่วงที่คนไม่ชุม ทำแบบนี้ได้ค่ะ

ถึงวันสอบ เดินทางไปตึก BB Tower เอาง่ายๆ อยู่ข้างแกรมมี่เลยนั่งรถไฟฟ้าไปลงอโศก ต่อวินมอเตอร์ไซต์ค่ะ ง่ายดี หรือถ้าขับรถไปก็มีที่จอดนะคะ แต่รถติดมาก เไปก่อนเวลาดีที่สุด อย่าเอาสัมภาระไปเยอะ เพราะเขาไม่ให้เอาอะไรเข้าไปในห้องเลยต้องฝากไปด้านนอกเท่านั้นนะคะ เดี๋ยวมีอะไรหายจะยุ่ง ไปถึงก็มีถ่ายรูปก่อนเข้าห้องสอบ แล้วก็เตรียมตัวเข้าห้องสอบได้ ไม่ต้องเตรียมปากกา ดินสอไปนะคะ ทางศูนย์มีไว้ให้หมดค่ะ และน่าจะเป็นที่รู้กันว่าในห้องสอบหนาวมากค่ะ ฮ่าๆ แต่งตัวรัดกุม และเตรียมเสื้อคุมไปซักตัวจะดี เพราะ ความหนาวสามารถทำลายสมาธิที่มีได้

ข่าวลืออที่ว่า ในช่วงที่ .การบินไทย รับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นข้อสอบ TOEIC จะยากขึ้น นั้น ไม่น่าเป็นความจริงนะคะ เพราะเท่าที่ทราบมาข้อสอบมีมีน หรือมาตรฐานในการออก ไม่น่าจะยากง่ายต่างกันมากนักค่ะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงแน่ๆ คือ ช่วงที่สายการบินไทยเปิดรับสมัคร จะต้องต่อแถวนานมากเนื่องจากคนสอบเยอะขึ้นเว่อร์ เพราะฉะนั้นไปสอบแต่เนิ่นๆ ดีกว่าค่ะ

การสอบ TOEIC ความจริงไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องทำข้อสอบจำนวนมากในเวลาที่จำกัด ข้อไหนทำไม่ได้อย่าลังเล ทำไปเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาและพาลทำให้ข้ออื่นเจ๊งไปด้วย พังแล้ว พังเป็นโดมิโนเลยนะคะ อีกส่วนที่น่าเป็นส่วนที่ทำคะแนนคือ Reading แต่เนื้อหาเยอะมาก ทางที่ดีควรดูคำถามและตัวเลือกก่อนไปหาคำตอบค่ะ นอกนั้นเป็นส่วนของ Grammar และคำศัพท์ อันนี้ต้องพึ่งความรู้เดิมและการเตรียมตัวค่ะ เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะเจออะไรในห้องสอบ ที่สำคัญที่สุด คือ เวลาที่จำกัดมากๆเมื่อเทียบกับจำนวนข้อสอบที่เราต้องทำ ฉะนั้น อย่าลืมเรื่องเวลาตอนทำข้อสอบด้วยนะคะ

           สอบเสร็จปุ๊บ วันรุ่งขึ้นก็ไปรับผลสอบได้ค่ะ ตื่นเต้นมากทุกครั้งที่ไปรับคะแนนสอบ แต่ก็ผ่านมาด้วยดีทุกครั้ง .. ที่เตรียมตัว ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดี และสนุกกับการเตรียมตัวนะคะ J

           วันนี้ไปละค่ะ มาซะยาวววเลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

คลิกมาที่เพจอุ๋มได้เลยนะคะ :D อัพเดทเมื่อไหร่รู้ทันที

แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ

Tuesday, July 30, 2013

Preparation :: เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง*

ก่อนอื่นต้องออกตัวเอี๊ยดดดดด เลยนะคะว่านี่เป็นการสมัครแอร์ครั้งแรกของอุ๋ม กับสายการบินเดียวที่ใฝ่ฝัน เพราะฉะนั้นอุ๋มไม่ได้มีประสบการณ์เยอะเลยนะคะ ไม่เคยไปเรียนกับ คลาสติดปีก ที่เขามีกัน อุ๋มเตรียมตัวเองผ่านการแนะนำจาก Internet ล้วนๆ ก็เลยอยากเล่าประสบการณ์ขำขำ ของตัวเอง แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าค่ะ อาจมีความรู้สอดแทรกที่สามารถนำไปปรับใช้ได้หากสายการบินไหนมีการเปิดรับ แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องนำเกร็ดต่างๆ ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของตัวเอง ที่สำคัญที่สุดคือความพร้อมของแต่ละคนด้วยนะคะ ว่าพร้อมขนาดไหน ใจสู้รึเปล่า!! ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มที่ขั้นตอนการเตรียมตัวกันเลยดีกว่าค่ะ

เอากันตรงๆ ณ จุดนี้สำรวจตัวเอง ดูเบาๆ ก่อน ว่าเป็นคนที่มีบุคคลดีหรือไม่ หน้าตาดูเป็นยังไง ดูดี ในนัยยะนี้ไม่ได้หมายความว่า ต้องสวยแบบนางเอก หรือหล่อแบบพระเอก เอาเป็นว่า ควรเป็นคนที่ดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาพอเข้าถึงได้ ไม่น่ากลัว หรือมีกริยาอาการอื่นๆ ที่อาจทำให้ผู้โดยสารในอนาคต กลัวได้ก็เป็นพอ!! แต่เรื่องแบบนี้มันจัดเสริมเติมแต่งกันได้ค่ะ ไม่ยากหรอก

ไอ่ที่ยากสำหรับอุ๋มเลยเนี้ย คือการทำ น้ำหนัก ค่ะ คือ ทำน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ !! บอกเลย ตอนมีข่าวมาว่าจะมีการเปิดรับสมัครจากสายการบินนี้ อุ๋มช็อคมาก น้ำตาไหลริน เพราะว่าตอนนั้นอ้วนมากค่ะ อุ๋มสูง 173 ซม. น้ำหนัก 68 กก. คือ อ้วนเกินไปมากนะ !!

น้ำหนัก และ ความสูง ตามเกณฑ์ส่วนมาของ หญิงสาว : ส่วนสูง – 110 ค่ะ ส่วน ผู้ชาย : ส่วนสูง – 100 พอ ผอมกว่านี้ได้ แต่อย่าอ้วนกว่านี้เป็นพอค่ะ ย้ำ!! ห้ามอ้วนกว่านี้ค่ะ

คืออุ๋มควรหนักไม่เกิน 63 กก. ค่ะ อีก 5 โลที่เกินมาล่ะ !! นั่นละประเด็นปัญหา ตอนนั้นก็หูตาแหกอยู่เหมือนกันนะ จะทำยังไงดี ก็เลยเริ่มอดอาหารค่ะ ทราบข่าวก่อนจะเปิดรับสมัครจริงประมาณ 2 เดือน แต่กว่าจะถึง วันพรีสกรีน หรือวันคัดตัวจากบุคลิกภาพ หรือวันถูกเชือด เนี้ยมีเวลาประมาณ 3 เดือน จัดหนัก อดข้าว อดขนม อดของหวาน กันไปค่ะ นั่นคือความพร้อมอย่างแรกที่ทุกคนพึงมี น้ำหนักและส่วนสูงที่เหมาะสม

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเตรียมตัวก็คือ ผลสอบ TOEIC” อันนี้คงทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าถ้าจะมาเป็นแอร์ สจ๊วต หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเนี้ยต้องพูดภาษาอังกฤษได้พอสมควรนะ โดยเอาผลสอบ TOEIC เป็นเกณฑ์ชี้วัดค่ะ เพราะ สวยหล่ออย่างเดียวไม่พอนะ ต้องพูดภาษาอังกฤษได้บ้างด้วย คะแนนที่เป็นเกณฑ์ก็ขึ้นอยู่กับสายการบินค่ะ ของอุ๋มต้องเกิน 650 คะแนน อันนี้เตรียมตัวดีๆ สอบได้ทุกคน อุ๋มเองชอบภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ข้อนี้เลยฉลุย แต่ก็มีการเตรียมตัวเยอะค่ะ เรื่องข้อสอบ TOEIC และการเตรียมตัวขอย่นย่อ เก็บไว้เล่าทีเดียวหน้านึงเลยดีกว่า เพราะยาวแน่นอน

ส่วนเรื่องที่แต่ละสายการบินเขารีเควสมาก็อ่านดีๆๆ นะคะ เช่น

ผู้ชาย :: ต้องมีสัญชาติไทย และ มีความสูงไม่น้อยกว่า 165 ซม. โดยน้ำหนักต้องสัมพันธ์กับส่วนสูงตามที่บอกไปข้างต้น นอกจากนั้นยังต้องผ่านหรือได้รับยกเว้นการเกณฑ์ทหาร ต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคที่สังคมรังเกียจ รวมทั้ง สามารถว่ายน้ำระยะ 100 เมตร ติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก ไม่ตะคริว และไม่จม โดย ต้องว่ายท่าฟรีสไตล์อย่างน้อยห้าสิบเมตร ใครไม่แน่ใจให้ไปรีบฟิตร่างกายเสียตอนนี้ มีเพื่อนๆ ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ที่ผ่านกระบวนการสัมภาษณ์หลายขั้นตอนจนเกือบจะได้เป็นลูกเรือ แต่ดั๊นนมาพลาด เพราะว่ายน้ำไม่ผ่าน So Sad เลยนะคะ !!

ผู้หญิง :: ต้องโสดและไม่เคยสมรส มาก่อน อีกทั้ง มีความสูงไม่น้อยกว่า 160 ซม. งานนี้รองเท้าส้นสูงไม่ช่วยนะคะ เพราะตอนยืนวัดเราต้องบอกลากับรองเท้าชั่วขณะ สัดส่วนของน้ำหนักและส่วนสูงต้องสัมพันธ์กันด้วย นอกจากนั้น ต้องสามารถว่ายน้ำระยะ 50 เมตร โดยไม่หยุดพัก และเช่นกัน ไม่จม ไม่ตะคริว โดยว่ายท่าฟรีสไตล์อย่างน้อย 25 เมตร ส่วนอีก 25 เมตรที่เหลือว่ายถ้าอะไรก็ได้ขอให้ถึงขอบสระก็พอ

ดังนั้น ถ้ารู้แบบนี้แล้ว จะได้เตรียมตัวกันถูกต้องตั้งแต่ต้น ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไปเรียนว่ายน้ำ ภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เรียนภาษาอังกฤษ บุคลิกไม่ดี ก็ทำตัวเองให้บุคลิกดีซะ ขอแนะนำเลยค่ะว่าทำทุกอย่างเตรียมตัวทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ค่ะ เพราะถ้าเราพร้อมตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสเข้ามา มันก็ง่ายขึ้นที่เราจะคว้าโอกาสนั้นค่ะ

สำหรับบล็อกเรื่องการเตรียมตัวคงจบแต่เพียงเท่านี้ก่อน ยาวววมาเลย !!! อุ๊ปส์ แล้วยังไงเจอกันในหน้า ประสบการณ์วัน Pre-Screen ของอุ๋มนะคะ จุ๊บจุ๊บบ

ขอให้ความฝันของทุกคนเป็นจริงค่ะ
เครดิต : ข้อมูลบางส่วนจาก www.thaicabincrew.com ค่ะ

คลิกมาที่เพจอุ๋มได้เลยนะคะ :D อัพเดทเมื่อไหร่รู้ทันที

แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ



Every new day is a chance to CHANGE your life.

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลย อุ๋มเองนะคะ :D

จริงๆ มีบล๊อกอยู่แล้ว คือ http://pannitap.blogspot.com/ แต่บล๊อกนั้นเป็นบล๊อกรวบรวม เรื่องราวความสวยความงาม แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ ซะมากกว่า จึงขอแยกมาเขียนอีกอัน เพราะว่ามีคนถามกันมาเยอะว่า ... อุ๋มสมัครเข้าตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนี่เป็นยังไง ทำยังไงบ้าง เตรียมตัวยังไง ใส่เสื้อผ้าอะไร จึงอยากเล่ากันไปแบบ ค่อยเป็นค่อยไป ทีละขั้นตอน จนกระทั้งเริ่มบิน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มเทรนนิ่งเลยนะคะ แต่ว่าชัวส์ล่ะ ว่าได้เทรนเลยคิดว่าเขียนดีกว่า ยังไงก็รอติดตามกันได้ ตอนนี้อุ๋มก็คงแบ่งช่วงการเขียนตามลำดับเหตุการณ์เลย ก็คือ

- เตรียมตัว
- Pre-Screen
- ข้อสอบข้อเขียน และการเตรียมตัว
- สอบสัมภาษณ์

ผ่านตรงนี้ไปก็ค่อนข้างมั่นใจได้ละ ว่าคุณจะได้ไปบินกับบริษัท :) แต่ก็อย่าชะล่าใจไปค่ะ ยังมีต่ออีกนิดหน่อย ซึ่งก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกัน

- สอบว่ายน้ำ
- ตรวจร่างกาย
- ตรวจประวัติอาชญากรรม
- ส่งเอกสาร

อุ๋มพึ่งมาถึงขั้นตอนนี้เองนะคะ ซึ่งต่อไป

- เข้าอบรมเป็นเวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง
- บินไฟลท์ทดสอบ 2 ไฟลท์

จบการอบรม :D

เพราะฉะนั้นยังพอมีเวลาอยู่ก็จะพยายามเขียนให้เต็มที่นะคะ เผื่อจะมีประโยชน์กับสาวๆ บ้าง โดยข้อมูลบางส่วน อาจมีการอ้างอิงมาจากที่อื่นนะคะ ซึ่งโดยส่วนมากตอนสมัครอุ๋มเข้า เว็บบอร์ดของ http://www.thaicabincrew.com/ ยังไงลองเข้าไปดูกันได้นะคะ เพราะว่าไม่ได้มีแค่สายการบินเดียวที่เปิดรับ ถ้าฝันจะเป็นพนักงานต้อนรับบนสายการบินอื่นที่นี่ก็มีให้เลือกอ่านหาความรู้ได้เช่นกันค่ะ

จะเริ่มทะยอยอัพเรื่อยๆ นะคะ สำหรับใครที่สนใจอัพเดทแบบติดขอบสามารถเข้ามาในเพจของอุ๋มได้ที่
www.facebook.com/pannitapblog ค่ะ อย่าลืมมากด Like กันนะคะ ขอบคุณค่ะ :D