Wednesday, October 16, 2013

Pre-Screening :: วันดูตัว #1

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงค่ะ วันแรก ที่เราต้องไปให้ทางสายการบินที่เราสมัครเห็นหน้าค่าตากัน หรือ วันดูตัว หรือ การพิจารณาบุคลิกภาพ ของเรานั่นเอง แน่นอนค่ะว่าความตื่นเต้นของอุ๋มนั้นเป็นล้นพ้นเลยทีเดียว ที่สำคัญ เหมือนว่าเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนวันพิจารณาบุคลิกภาพ อุ๋มยังน้ำหนักเกินอยู่เลย แน่ล่ะค่ะ ลดกันหูตาเหลือกอีก มาดูบรรยากาศวันพิจารณาบุคลิกภาพ หรือ วัน Pre-Screen ที่อุ๋มเจอเลยดีกว่าค่ะ

                ก่อนวันพรีสกรีน ::
-          ทาเล็บ เอาไว้ให้เรียบร้อยเลยนะคะ อย่ามาทาเอาวันนี้ เพราะ ไม่งั้น วุ่นวายๆ เล็บไม่แห้งจับนู่นจับนี่เล็บพัง เอ้า! ไม่สวยอีก สีที่ทาก็เลือกสีสดๆ ค่ะ แดง ส้ม ชมพู เอาให้เข้ากับชุดที่เตรียมไว้ เอาจริงๆ เหตุขัดข้องเกิดได้ทุกเมื่อ
-          ถุงน่อง ก็เตรียมไว้ซัก 2 คู่นะคะ เพราะของอุ๋มรันด้วยวันนั้น วิธีการแก้คือ เตรียมยาทาเล็บใสๆ ติดตัวไป ไม่งั้น รันมาทีละตัวใครตัวมัน จริงๆ นะ
-          เอกสาร ไม่ว่าอะไรจะอยู่ในลิสต์ที่ทางสายการบินให้เตรียม เตรียมให้พร้อมนะคะ เช็ควันหมดอายบัตรประชาชน พาร์สปอต ใบคะแนน TOEIC ฯลฯ สำเนาหลักฐานการศึกษา สำเนาหลักฐานแสดงการผ่านหรือได้รับยกเว้นการเกณฑ์ทหาร สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน หลักฐานผลคะแนนการทดสอบภาษาอังกฤษ และรูปถ่ายสองนิ้วหนึ่งรูป (อันนี้แล้วแต่สายการบินด้วยค่ะ) รวมเอาใส่ไว้ในแฟ้มเดียวกัน เพื่อให้ง่ายแก่การคว้าติดตัวไปค่ะ

มาถึงคืนก่อนวันพรีสกรีนก็นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอค่ะจะได้ไม่เอ๋อ ฮ่าๆ อุ๋มจำได้ว่าตัวเองได้รอบบ่ายของวันธรรมดา แต่ถึงแม้ว่าได้รอบบ่ายอุ๋มก็ตื่นมาแต่ไก่โห่เลยค่ะ และพออาบน้ำสระผมเสร็จ ไม่มั่นใจค่ะว่าจะทำผมได้สวยพอไหม สุดท้ายเลยหอบตัวเองไปร้านค่ะ ไปให้ช่างทำผมให้ดีกว่า เพราะอยากดูเต็ม และเป๊ะ ที่สุด แต่แต่งหน้าเองค่ะ สำหรับลุคที่อุ๋มแต่งหน้าในวัน Pre-Screen นั้น ตามนี้เลยค่ะ


                ความจริงแล้วไม่ควรใส่ Contact Lens ที่มีสี หรือที่เป็นบิ๊กอายนะคะ ใสๆ เท่านั้นค่ะ เซฟฟฟ ที่สุด และ ขนตาปลอม ติดได้ตามความเหมาะสม คือไม่ต้องฟูฟ่องมาก เอาแค่ดูสวย เรียบร้อย มีคลาส น่ามอง อะไรประมาณนี้

เครื่องแต่งกาย ที่ใส่อันนี้อุ๋มว่าแล้วแต่คน และแล้วแต่สายการบินที่เราสมัครค่ะ อยู่ที่ว่าเราใส่อะไรสวยด้วย ทางสายการบินระบุอะไรมาทำตามให้ได้มากที่สุด สายการบินไทย ที่อุ๋มสมัครนั้นให้ใส่ เสื้อแขนสั้น กระโปรงยาวถึงเข่า ถุงน่อง เลือกชุดสีสุภาพ และไม่ล้ำสมัยจนเกินไปนัก ไม่ต้องใส่เครื่องประดับนะคะ ยกเว้น ต่างหูซึ่งเป็นมุกหรือเพชรขนาดเล็ก และ นาฬิกาข้อมือสายหนัง สแตนเลส เงิน หรือทอง เส้นเล็กๆ เท่านั้นค่ะ (อย่าแฟชั่นจ๋าาา)

(วันเทรนวันแรกของอุ๋มค่ะ ใส่ชุดวันเดียวกับวัน Pre-Screen เลย) 

                ในแต่ละปี ก็จะมีการประกาศออกมาค่ะวาจะรับลูกเรือทั้งสั้น xxx คน ณ ตอนนี้ มีผู้ที่มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว xxxx คน ซึ่งปีที่อุ๋มสมัครนี้รับประมาณ 190 คน แต่รายชื่อผู้เข้ารับพิจารณาบุคลิกภาพ 3,000 อัพคนค่ะ อัตราส่วนพอกับตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยทีเดียว !!! ซึ่งทั้งหมดจะถูกแบ่งวันเข้ารับการพิจารณาบุคลิกภาพ โดยแบ่งวันก่อน-หลังตามลำดับเลขที่ใบสมัคร ถ้ารู้ว่าสมัครแรกๆ ก็เตรียมตัวเนิ่นๆ เลย ส่วนของอุ๋มอยู่ตรงช่วงกลางๆ ค่ะ มีเวลาให้ตื่นเต้นนานพอสมควร

                ไปถึงสถานที่สำหรับการพิจารณาบุคลิคภาพก่อนเวลา เพื่อไปทำใจให้ดี จะได้ไม่ตื่นเต้นจนเกินงาม อย่าลืมว่าความตื่นเต้นมักนำมาซึ่งความประหม่าและไม่มั่นใจค่ะ เตรียมใจๆๆ อุ๋มไปถึงก่อนเป็น ชั่วโมงเลยด้วย มาเร็วดีกว่ามาช้าค่ะ และอย่าลืมว่า ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ค่ะ ชวนคนนั้นคนนี้คุยได้เต็มที่เลย จะได้ลดความตื่นเต้นของเราไปได้ด้วย 

                นั่งรอไปได้ซักพักพอถึงเวลาก็จะมี เจ้าหน้าที่จากกอง เดินมาบอกว่าขอตรวจเอกสารก่อนเข้าไปชั่งน้ำหนักนะ นั่นก็คือ บัตรประชาชนตัวจริง และใบคะแนน TOEIC บอกเลยว่าเตรียมตัวมาไม่พร้อมก็มีสิทธิ์จะต้องเดินคอตกกลับบ้านไปก่อนนะคะ เรื่องอายุก็สำคัญเช่นเดียวกัน ถ้าเกินไปแค่ 1 วันก็ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าเกินแล้วไม่ต้องมาดีกว่า เสียใจเปล่าๆ พอตรวจเอกสารเสร็จก็จะมีเจ้าหน้าที่จากสายการบิน จัดให้เรานั่ งตามลำดับเลขที่ใบสมัครเลยค่ะ และให้เตรียมเอกสารไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ ก็คือมีบัตรประชาชน และใบผลสอบ TOEIC  นั่นล่ะซึ่งต้องเป็นใบคะแนนที่มีรูปเท่านั้น และต้องเป็นตัวจริง หรือตัว Reprint จาก ศูนย์สอบเท่านั้นนะคะ ใบที่เป็น สำเนาใช้ไม่ได้ค่ะค่ะ

                อุ๋มขอแปะไว้เท่านี้ก่อน หลังจากขั้นตอนนี้ก็ คือ การเดินขึ้นไปพบคณะกรรมการแล้วค่ะ รอหน่อยนะคะ ช่วงนี้เทรนอยู่ ไม่มีเวลามาอัพเล้ยยยย ><" แต่ตอนนี้ใกล้ Pre-Screen ของสายการบินอุ๋มแล้ว อยากให้พี่ๆ น้องๆ ที่สมัครได้มีโอกาสมาอ่าน และเตรียมตัวกันก่อนค่ะ และอย่างที่อุ๋มบอกเสมอว่า คนที่พร้อมกว่ามักจะได้โอกาสนั้น วันนี้คุณพร้อมแล้วหรือยังคะ




ติดตามชีวิตและเรื่องราวการเทรนคลิกที่รูป
ได้เลยนะคะ เจอกันที่ Get The Look by PP ค่ะ



Wednesday, August 7, 2013

Registration :: ขั้นตอนแรก กรอกใบสมัครออนไลน์

พร้อมกันรึยังๆๆ ,,,

หลายๆ คนคงถามคำถามนี้กับตัวเองเมื่อเวลาการยื่นใบสมัครมาถึง หรือ เมื่อรู้ข่าวคร่าวๆ ว่าเห๊ย! สายการบินนั้นๆ ที่เราเล็งไว้กำลังจะเปิดรับสมัครแล้วนะ อุ๋มเองก็เช่นกันค่ะ เรียกว่า จดจ้องรอคอย อยู่นานพอสมควรทีเดียว แบบจะมาก็ไม่มา เอ๊ะ จะมารึยังนะ พอมาปุ๊บนี่แบบอยู่ในสภาพที่พร้อมสุดขีดแล้วค่ะ ถือว่าดีที่มาตอนพร้อมแล้วนะ แล้วคุณๆ ล่ะคะ พร้อมกันรึยัง ?

ขั้นตอนที่อุ๋มจะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือการกรอกใบสมัครออนไลน์ ค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้แต่ละสายการบิน เขามีการสมัครออนไลน์กันแล้วนะคะ อุ๋มขอเล่าคร่าวๆ ถึงสายการบินที่อุ๋มสมัครนะคะ J จะเล่าสายการบินอื่นก็ไม่ได้ด้วยสิ ไม่เคยสมัคร ฮ่าๆ

อย่างแรกที่ต้องดู คือ ช่วงเวลา ที่สายการบินเปิดรับ Online Application ค่ะ เช่น วันที่ xx-xx มีนาคม 2556

การกรอกใบสมัครออนไลน์นั้นทำด้วยการเข้าไปยัง Website ของสายการบินนั้น หรือว่าหน้า Link สำหรับเข้าสู่การสมัครซึ่งจะมีโพสต์อยู่ตามเว็บ หรือ กระทู้ต่างๆ ส่วนตัวอุ๋มตามข้อมูลจาก เว็บบอร์ดของ www.thaicabincrew.com อย่างเดียวเลยตอนนั้น หรือในเพจบางเพจใน Facebook ก็มีนะคะ เดี๋ยวอุ๋มจะรวบรวมให้ J

จากนั้นก็กรอกในส่วนใบสมัครตามขั้นตอนเข้ายังระบบ ตรงนี้ก็กรอกให้ครบถ้วนตามความเป็นจริง ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ ให้เป็นไปตามที่เขาระบุ เกรดเฉลี่ยก็ต้องใส่ เพราะเขารับแต่คนเรียนจบแล้ว และที่สำคัญเลย คือ คะแนน TOEIC อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าแทบทุกสายการบินให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะสายการบินทุกที่ของเอเชีย ส่วนคะแนนมากน้อยต่างกันก็แล้วแต่เกณฑ์ของสายการบินค่ะ คะแนนขั้นต่ำของเขาเท่าไหร่ เราก็ต้องไปสอบมาให้ได้มากเกินที่เขาระบุ แต่ให้ดี และ เซฟที่สุด ก็ควรจะทำให้ได้ มากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเองในสนามแข่งขันนั่นเอง

พอกรอกทุกอย่างเสร็จ สุดท้ายระบบจะเซฟข้อมูลของเราเอาไว้ และจะให้เรา สั่งพิมพ์ ใบสมัครที่เราเพิ่งกรอกออกมาเพื่อเก็บไว้ยืนยัน และต้องนำไปแสดงในวันที่เข้าไปที่บริษัทหรืออะไรก็ว่าไป ที่สำคัญถ้าเขามีค่าสมัครก็อย่าลืมไปจ่ายให้เรียบร้อยที่ธนาคารที่กำหนด และในเวลาที่กำหนด นะคะ เอาไปจ่ายวันนั้นนั่นแหละ เดี๋ยวจะลืม พลาดตรงนี้ก็ไปต่อไม่ได้แล้วนะคะ

หลังจากกรอกใบสมัครเสร็จเรียบร้อย มั่นใจว่าทำตามขั้นตอนทั้งหมด คราวนี้ก็รอได้ค่ะ ถ้าคุณสมบัติเบื้องต้นผ่านเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด อายุไม่เกินเกณฑ์ ส่วนสูง น้ำหนัก เป็นไปตามเกณฑ์ จบการศึกษาเทียบเท่า หรือสูงกว่าที่ทางบริษัทกำหนด มีคะแนน TOEIC และทำการจ่ายค่าสมัครเรียบร้อยแล้ว น่าจะมีชื่อกันทุกคนนะคะ และแน่นอนว่าสุดท้าย ก็มีชื่ออุ๋มในอยู่ List ผู้ผ่านด่านไปรอบต่อไปด้วยค่ะ


ยังไงก็มาติดตามกันต่อได้นะคะว่า มีชื่อ ได้ไปต่อแล้ว เป็นยังไงต่อ …. ครั้งหน้าเจอกับ Pre-Screening :: ดูตัวกัน สวยๆ เป๊ะๆ

วันนี้ไปล่ะคะ ตอนนี้่สายการบินไหนเปิดอยู่ ,,, อุ๋มแนะนำว่าลองเช็คได้ที่ Thaicabincrew Webboard ได้เลยนะคะ อัพเดทสุดๆ ค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี สวัสดีค่ะ

Wednesday, July 31, 2013

TOEIC :: กับการเตรียมตัวเบาๆ

ว่าด้วยเรื่องของคะแนนสอบ TOEIC และการเตรียมตัว ก่อนอื่นจะสอบได้เนี้ยอุ๋มเชื่อว่าสาระสำคัญเลย คือ การเตรียมสอบ รู้วันนี้สอบพรุ่งนี้ มันเวิร์คนะสำหรับบางคน แต่ว่าถ้าจะเสียตังค์สอบ แล้วเสียตังค์อีกหน่อยซื้อหนังสือมาอ่าน เพื่อให้ได้คะแนนเยอะๆ น่าจะดีกว่า วันนี้อุ๋มจึงมาแชร์วิธีการทำข้อสอบบาง Part ที่อุ๋มถนัดค่ะ :)

ก่อนอื่นมารู้จัก TOEIC กันก่อนเลยดีกว่า

TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication เป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถ ตั้งแต่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในระดับเริ่มต้น จนถึงผู้ที่ใช้ ภาษาอังกฤษได้ในระดับใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา TOEIC เป็นแบบทดสอบภาษาอังกฤษที่ถือเป็นมาตรฐานสากล ที่นำมาใช้วัดระดับความสามารถในการฟังและการอ่าน และทักษะความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ (English Proficiency) หน่วยงานต่าง จึงได้นำ TOEIC ไปใช้ในลักษณะต่างๆ กัน บางแห่งเพื่อคัดเลือกเข้าทำงาน บางแห่งใช้เพื่อวัดระดับความสามารถ ทางการใช้ภาษาของ พนักงาน

** โดยปรกติแล้วผลสอบมีอายุ 2 ปี ค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าสายการบินนั้นๆ จำกัดระยะเวลาไว้เท่าไหร่นับจากวันสอบด้วยนะคะ **

            มาพูดถึงข้อสอบ TOEIC บ้าง ข้อสอบ TOEIC ในปัจจุบันที่เราจะได้สอบกัน คือ Redesigned TOEIC หรือ ข้อสอบ TOEIC ที่ปรับปรุงใหม่แล้ว เวลาซื้อหนังสือประกอบการเตรียมตัวต้องดูดีๆ นะคะ อุ๋มคิดว่าอาจจะยังมีหนังสือเตรียมตัวสอบของ TOEIC แบบเก่าหลงเหลืออยู่ ข้อสอบ TOEIC แบบใหม่ ประกอบด้วยอะไรบ้าง

แบบทดสอบ TOEIC เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple choice) มีทั้งหมด 200 ข้อ โดยใช้ เวลาสอบ 2 ชั่วโมงเต็ม (บอกเลยว่าต้องบริหารเวลาดีมากๆๆๆ) โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆด้วยกัน ได้แก่

Section 1: Listening Comprehension (ส่วนของการฟัง)

** Part นี้ จะเป็น Part เดียวที่พวกเรามีโอกาส ทำได้ ครบ 100 ข้อ โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า Reading Part ค่ะ หลักๆ ที่ต้องใช้ในการทำข้อสอบส่วนนี้ คือ สมาธิ ค่ะ อย่าพะวงหน้าพะวงหลัง หลุดปุ๊บ จบ! **

Part I:   Photographs 10 Questions (รูปภาพ 10 ข้อ)
วิธีการทำ Part นี้ของอุ๋มหลักๆ เลย คือมองภาพนั้นดีๆ ก่อนที่เทปจะเล่นคำพูดออกมา โดยพยายามดูว่า ใคร กำลังทำอะไร ที่ไหน มีกี่คน ดูลักษณะหลักๆ เพราะเสียงที่เล่นออกมานั้นจะพูดสิ่งที่เราเห็นนั่นแหละ ถ้ากลัวฟังไม่ทัน *แนะนำ* หาหนังสือที่มี CD ประกอบ จะได้ลองฟังดูให้ชิน ลองทำข้อสอบดูว่าตอนลองทำ ทำได้มากน้อยแค่ไหน ฟังออกมากน้อยแค่ไหน ต้องฝึกเยอะๆ

Part II:  Question – Response 30 Questions (ถาม-ตอบ 30 ข้อ)
            ทุก Part ของ Listening เน้นสมาธิล้วนๆ ตรงนี้อุ๋มจะตั้งใจฟัง คำแรกของประโยค หรือ Question-word ของโจทย์แต่ละข้อให้ได้ จริงๆแล้วเขียน Question-word ของแต่ละ ข้อลงในกระดาษคำถามเลยกันลืมไปเลย เช่น What, Where, When, Why, How …, etc. เพราะว่า มันเจาะจงได้เลยว่าคำตอบของเราต้องตอบแบบไหน ไม่ใช่ ถามว่านี่คืออะไร จะไปตอบว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่ แค่ได้ คำแรกมา คำตอบมันเดาได้ค่อนข้างง่ายแล้ว พยายามอย่ารวน สติอย่าหลุด ตรงนี้ทำได้แน่นอน :D

Part III: Conversations 30 Questions (10 Conversations; 3 Questions each) (บทสนทนา 30 ข้อ)
Part IV: Short Talks 30 Questions (10 Talks; 3 Questions each) (บทพูดคุยสั้น 30 ข้อ)
            ส่วน Part 3 และ 4 นี้ ถ้าทำได้ อ่านคำถามทั้ง 3 ข้อ ก่อนที่ ก่อนที่จะเปิดเสียงข้อความให้ได้ทุกครั้ง ซึ่งค่อนข้างยาก อันนี้ยิ่งฝึกเยอะยิ่งดี คือถ้าโจทย์อ่าน ถ้าเรื่องไหนฟังออก ก็น่าจะตอบได้ ทั้ง 3 ข้อ แต่ถ้าฟังไม่ออก ให้มั่วให้ใกล้เคียง เอาส่วนที่ได้ยินมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ยิ่งพวกที่ชี้เฉพาะ  วัน เวลา สถานที่ แทน แบบถ้าได้ยินคำนั้น ก็เลือกไปเลย อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสถูกบ้างค่ะ

Section 2: Reading Comprehension (ส่วนของการอ่าน)
              Part V:   Incomplete Sentences 40 Questions (เติมประโยคให้สมบูรณ์ 40 ข้อ)
              Part VI:  Text Completion 12 Questions (4 Reading Sets; 3 Questions each) (เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ 20 ข้อ)
              Part VII: Reading Comprehensive 48 Questions (Single Passages: 28 Questions, Double Passages 20 Questions) (การอ่านเพื่อจับใจความ 40 ข้อ)

              บอกตามตรงเลย Part นี้ไม่กล้าแนะนำค่ะ ในส่วนของ Listening อุ๋มจัดเต็มได้ เพราะ ส่วนนั้นได้เต็ม แต่ Grammar ห่วยมากบอกเลย เลยอยากให้อ่านและเตรียมตัวกันเยอะๆ สำคัญที่สุดในเรื่องของเวลาค่ะ บริหารเวลาดีๆ ไม่ได้ ข้ามไปก่อน อย่ารน อย่าวน อย่าคิดอะไรเลย คิดแค่ข้อสอบตรงหน้า ส่วนของ Context ยาวๆ พยายามแสกนหาจุดสำคัญ อ่านคำถามก่อนว่าเขาต้องการอะไร ต้องการให้เราหาอะไร เพื่อไปหาจุดที่สามารถนำมาตอบได้ ที่อยากให้ทุกคนลองทำข้อสอบก่อน เพราะว่าตอนอุ๋มเตรียมตัวอุ๋มได้ 900+ คะแนน แต่ตอนไม่เตรียมตัวได้น้อยกว่าค่ะ ยังไง ก็พยายามกันเยอะๆๆ นะคะ ข้อมูลดีๆ เดี๋ยวนี้หาได้ไม่ยาก ใน Internet มีเยอะมาก ลองดูนะคะ

มีเว็บไซต์มาให้ลองทำข้อสอบด้วยค่ะ http://www.english-test.net/toeic/ ลองดูนะคะ ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวมากเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ

ส่วนหนังสือที่อุ๋มใช้ในการเตรียมตัวสอบ คือ Redesigned TOEIC Grammar & Reading Tests ของ ดร.ภาณุ ปรัชญะวิสาล ค่ะ เพราะมีครบทุก Part และมี CD ประกอบสำหรับฝึก Listening ด้วยค่ะ



แล้วก็เวลาจะไปสอบ TOEIC ต้องจองสอบล่วงหน้าก่อนกับทางศูนย์สอบ TOEIC นะคะ ตามข้อมูลด้านล่างนี่เลยค่ะ

เกี่ยวกับศูนย์สอบ TOEIC
เวลาทำการ (Office Hours) วันจันทร์ เสาร์ เวลา 8:00 - 16:30
เวลาในการรับผลสอบ (Score Pickup) วันจันทร์ เสาร์ เวลา 10.00 - 16.30
เวลาหยุดทำการ ทุกวันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์
** เพราะฉะนั้นดูตารางดีๆ นะคะ ถ้าจะใช้คะแนนกระชั้นชิด เดี๋ยวพอจะไปสอบศูนย์ปิดจะอดสอบน๊า **

ที่ตั้งศูนย์สอบ TOEIC (สาขา กรุงเทพ)
Center of Professional Assessment Thailand อาคาร BB Tower (Bangkok Business Building) ชั้น 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี (ซอยสุขุมวิท 21) กรุงเทพ 10110
โทรศัพท์ (02) 260 7061, (02) 259-3990
โทรสาร (02) 664-3122

แผนที่ศูนย์สอบ TOEIC (สาขา กรุงเทพ)



ขอเล่าเรื่องการไปสอบ TOEIC ของอุ๋มเอง :D อันนี้ข้ามได้นะคะ ฮ่าๆ

ก่อนสอบ โทรจองล่วงหน้ากับศูนย์สอบ 2 วัน จำได้ว่าจะสอบวันพุธ โทรไปจองวันจันทร์อะไรแบบนี้ ในช่วงที่คนไม่ชุม ทำแบบนี้ได้ค่ะ

ถึงวันสอบ เดินทางไปตึก BB Tower เอาง่ายๆ อยู่ข้างแกรมมี่เลยนั่งรถไฟฟ้าไปลงอโศก ต่อวินมอเตอร์ไซต์ค่ะ ง่ายดี หรือถ้าขับรถไปก็มีที่จอดนะคะ แต่รถติดมาก เไปก่อนเวลาดีที่สุด อย่าเอาสัมภาระไปเยอะ เพราะเขาไม่ให้เอาอะไรเข้าไปในห้องเลยต้องฝากไปด้านนอกเท่านั้นนะคะ เดี๋ยวมีอะไรหายจะยุ่ง ไปถึงก็มีถ่ายรูปก่อนเข้าห้องสอบ แล้วก็เตรียมตัวเข้าห้องสอบได้ ไม่ต้องเตรียมปากกา ดินสอไปนะคะ ทางศูนย์มีไว้ให้หมดค่ะ และน่าจะเป็นที่รู้กันว่าในห้องสอบหนาวมากค่ะ ฮ่าๆ แต่งตัวรัดกุม และเตรียมเสื้อคุมไปซักตัวจะดี เพราะ ความหนาวสามารถทำลายสมาธิที่มีได้

ข่าวลืออที่ว่า ในช่วงที่ .การบินไทย รับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นข้อสอบ TOEIC จะยากขึ้น นั้น ไม่น่าเป็นความจริงนะคะ เพราะเท่าที่ทราบมาข้อสอบมีมีน หรือมาตรฐานในการออก ไม่น่าจะยากง่ายต่างกันมากนักค่ะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงแน่ๆ คือ ช่วงที่สายการบินไทยเปิดรับสมัคร จะต้องต่อแถวนานมากเนื่องจากคนสอบเยอะขึ้นเว่อร์ เพราะฉะนั้นไปสอบแต่เนิ่นๆ ดีกว่าค่ะ

การสอบ TOEIC ความจริงไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องทำข้อสอบจำนวนมากในเวลาที่จำกัด ข้อไหนทำไม่ได้อย่าลังเล ทำไปเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาและพาลทำให้ข้ออื่นเจ๊งไปด้วย พังแล้ว พังเป็นโดมิโนเลยนะคะ อีกส่วนที่น่าเป็นส่วนที่ทำคะแนนคือ Reading แต่เนื้อหาเยอะมาก ทางที่ดีควรดูคำถามและตัวเลือกก่อนไปหาคำตอบค่ะ นอกนั้นเป็นส่วนของ Grammar และคำศัพท์ อันนี้ต้องพึ่งความรู้เดิมและการเตรียมตัวค่ะ เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะเจออะไรในห้องสอบ ที่สำคัญที่สุด คือ เวลาที่จำกัดมากๆเมื่อเทียบกับจำนวนข้อสอบที่เราต้องทำ ฉะนั้น อย่าลืมเรื่องเวลาตอนทำข้อสอบด้วยนะคะ

           สอบเสร็จปุ๊บ วันรุ่งขึ้นก็ไปรับผลสอบได้ค่ะ ตื่นเต้นมากทุกครั้งที่ไปรับคะแนนสอบ แต่ก็ผ่านมาด้วยดีทุกครั้ง .. ที่เตรียมตัว ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดี และสนุกกับการเตรียมตัวนะคะ J

           วันนี้ไปละค่ะ มาซะยาวววเลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

คลิกมาที่เพจอุ๋มได้เลยนะคะ :D อัพเดทเมื่อไหร่รู้ทันที

แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ

Tuesday, July 30, 2013

Preparation :: เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง*

ก่อนอื่นต้องออกตัวเอี๊ยดดดดด เลยนะคะว่านี่เป็นการสมัครแอร์ครั้งแรกของอุ๋ม กับสายการบินเดียวที่ใฝ่ฝัน เพราะฉะนั้นอุ๋มไม่ได้มีประสบการณ์เยอะเลยนะคะ ไม่เคยไปเรียนกับ คลาสติดปีก ที่เขามีกัน อุ๋มเตรียมตัวเองผ่านการแนะนำจาก Internet ล้วนๆ ก็เลยอยากเล่าประสบการณ์ขำขำ ของตัวเอง แบบเล่าสู่กันฟังมากกว่าค่ะ อาจมีความรู้สอดแทรกที่สามารถนำไปปรับใช้ได้หากสายการบินไหนมีการเปิดรับ แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องนำเกร็ดต่างๆ ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของตัวเอง ที่สำคัญที่สุดคือความพร้อมของแต่ละคนด้วยนะคะ ว่าพร้อมขนาดไหน ใจสู้รึเปล่า!! ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มที่ขั้นตอนการเตรียมตัวกันเลยดีกว่าค่ะ

เอากันตรงๆ ณ จุดนี้สำรวจตัวเอง ดูเบาๆ ก่อน ว่าเป็นคนที่มีบุคคลดีหรือไม่ หน้าตาดูเป็นยังไง ดูดี ในนัยยะนี้ไม่ได้หมายความว่า ต้องสวยแบบนางเอก หรือหล่อแบบพระเอก เอาเป็นว่า ควรเป็นคนที่ดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาพอเข้าถึงได้ ไม่น่ากลัว หรือมีกริยาอาการอื่นๆ ที่อาจทำให้ผู้โดยสารในอนาคต กลัวได้ก็เป็นพอ!! แต่เรื่องแบบนี้มันจัดเสริมเติมแต่งกันได้ค่ะ ไม่ยากหรอก

ไอ่ที่ยากสำหรับอุ๋มเลยเนี้ย คือการทำ น้ำหนัก ค่ะ คือ ทำน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ !! บอกเลย ตอนมีข่าวมาว่าจะมีการเปิดรับสมัครจากสายการบินนี้ อุ๋มช็อคมาก น้ำตาไหลริน เพราะว่าตอนนั้นอ้วนมากค่ะ อุ๋มสูง 173 ซม. น้ำหนัก 68 กก. คือ อ้วนเกินไปมากนะ !!

น้ำหนัก และ ความสูง ตามเกณฑ์ส่วนมาของ หญิงสาว : ส่วนสูง – 110 ค่ะ ส่วน ผู้ชาย : ส่วนสูง – 100 พอ ผอมกว่านี้ได้ แต่อย่าอ้วนกว่านี้เป็นพอค่ะ ย้ำ!! ห้ามอ้วนกว่านี้ค่ะ

คืออุ๋มควรหนักไม่เกิน 63 กก. ค่ะ อีก 5 โลที่เกินมาล่ะ !! นั่นละประเด็นปัญหา ตอนนั้นก็หูตาแหกอยู่เหมือนกันนะ จะทำยังไงดี ก็เลยเริ่มอดอาหารค่ะ ทราบข่าวก่อนจะเปิดรับสมัครจริงประมาณ 2 เดือน แต่กว่าจะถึง วันพรีสกรีน หรือวันคัดตัวจากบุคลิกภาพ หรือวันถูกเชือด เนี้ยมีเวลาประมาณ 3 เดือน จัดหนัก อดข้าว อดขนม อดของหวาน กันไปค่ะ นั่นคือความพร้อมอย่างแรกที่ทุกคนพึงมี น้ำหนักและส่วนสูงที่เหมาะสม

ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเตรียมตัวก็คือ ผลสอบ TOEIC” อันนี้คงทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าถ้าจะมาเป็นแอร์ สจ๊วต หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเนี้ยต้องพูดภาษาอังกฤษได้พอสมควรนะ โดยเอาผลสอบ TOEIC เป็นเกณฑ์ชี้วัดค่ะ เพราะ สวยหล่ออย่างเดียวไม่พอนะ ต้องพูดภาษาอังกฤษได้บ้างด้วย คะแนนที่เป็นเกณฑ์ก็ขึ้นอยู่กับสายการบินค่ะ ของอุ๋มต้องเกิน 650 คะแนน อันนี้เตรียมตัวดีๆ สอบได้ทุกคน อุ๋มเองชอบภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ข้อนี้เลยฉลุย แต่ก็มีการเตรียมตัวเยอะค่ะ เรื่องข้อสอบ TOEIC และการเตรียมตัวขอย่นย่อ เก็บไว้เล่าทีเดียวหน้านึงเลยดีกว่า เพราะยาวแน่นอน

ส่วนเรื่องที่แต่ละสายการบินเขารีเควสมาก็อ่านดีๆๆ นะคะ เช่น

ผู้ชาย :: ต้องมีสัญชาติไทย และ มีความสูงไม่น้อยกว่า 165 ซม. โดยน้ำหนักต้องสัมพันธ์กับส่วนสูงตามที่บอกไปข้างต้น นอกจากนั้นยังต้องผ่านหรือได้รับยกเว้นการเกณฑ์ทหาร ต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคที่สังคมรังเกียจ รวมทั้ง สามารถว่ายน้ำระยะ 100 เมตร ติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก ไม่ตะคริว และไม่จม โดย ต้องว่ายท่าฟรีสไตล์อย่างน้อยห้าสิบเมตร ใครไม่แน่ใจให้ไปรีบฟิตร่างกายเสียตอนนี้ มีเพื่อนๆ ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ที่ผ่านกระบวนการสัมภาษณ์หลายขั้นตอนจนเกือบจะได้เป็นลูกเรือ แต่ดั๊นนมาพลาด เพราะว่ายน้ำไม่ผ่าน So Sad เลยนะคะ !!

ผู้หญิง :: ต้องโสดและไม่เคยสมรส มาก่อน อีกทั้ง มีความสูงไม่น้อยกว่า 160 ซม. งานนี้รองเท้าส้นสูงไม่ช่วยนะคะ เพราะตอนยืนวัดเราต้องบอกลากับรองเท้าชั่วขณะ สัดส่วนของน้ำหนักและส่วนสูงต้องสัมพันธ์กันด้วย นอกจากนั้น ต้องสามารถว่ายน้ำระยะ 50 เมตร โดยไม่หยุดพัก และเช่นกัน ไม่จม ไม่ตะคริว โดยว่ายท่าฟรีสไตล์อย่างน้อย 25 เมตร ส่วนอีก 25 เมตรที่เหลือว่ายถ้าอะไรก็ได้ขอให้ถึงขอบสระก็พอ

ดังนั้น ถ้ารู้แบบนี้แล้ว จะได้เตรียมตัวกันถูกต้องตั้งแต่ต้น ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไปเรียนว่ายน้ำ ภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เรียนภาษาอังกฤษ บุคลิกไม่ดี ก็ทำตัวเองให้บุคลิกดีซะ ขอแนะนำเลยค่ะว่าทำทุกอย่างเตรียมตัวทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ค่ะ เพราะถ้าเราพร้อมตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสเข้ามา มันก็ง่ายขึ้นที่เราจะคว้าโอกาสนั้นค่ะ

สำหรับบล็อกเรื่องการเตรียมตัวคงจบแต่เพียงเท่านี้ก่อน ยาวววมาเลย !!! อุ๊ปส์ แล้วยังไงเจอกันในหน้า ประสบการณ์วัน Pre-Screen ของอุ๋มนะคะ จุ๊บจุ๊บบ

ขอให้ความฝันของทุกคนเป็นจริงค่ะ
เครดิต : ข้อมูลบางส่วนจาก www.thaicabincrew.com ค่ะ

คลิกมาที่เพจอุ๋มได้เลยนะคะ :D อัพเดทเมื่อไหร่รู้ทันที

แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ